ซีลิค (SELIC) โชว์กาไรไตรมาส 2/62 โต 392.3% สูงสุดเป็นประวัติการณ์
บมจ. ซีลิค คอร์พ (SELIC) ประกาศไตรมาส 2/62 กำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แตะ 21.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 392.3% จากงวดเดียวกัน ขณะที่รายได้รวมเท่ากับ 354.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127.2% จากงวดเดียวกันปีก่อน โดยมาจากธุรกิจกาวอุตสาหกรรม-ธุรกิจสติกเกอร์และฉลาก ด้านผู้บริหาร "เอก สุวัฒนพิมพ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มองความต้องการตลาดสติกเกอร์ยังคงเจริญเติบโตดี โดยเฉพาะแถบทวีปเอเชีย ตามทิศทางเดียวกันกับการขยายตัวของธุรกิจออนไลน์ช้อปปิ้ง หวังสนับหนุนกลุ่มบริษัทเติบโตต่อไปและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้
นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีลิค คอร์พ จากัด (มหาชน) SELIC เปิดเผยว่า ภาพรวมครึ่งปีแรกของปีนี้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยในไตรมาส 2/62 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการดำเนินการหลัก 2 เรื่อง คือการผลักดันการดำเนินการของธุรกิจกาวอุตสาหกรรมที่เป็นธุรกิจเดิมทั้งด้านการขยายยอดขาย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการปรับปรุงกระบวนการให้ดีขึ้น และการดำเนินการธุรกิจสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่มีกาวในตัวเป็นไปด้วยความราบรื่น และเกื้อหนุนให้เกิดการเสริมกัน (synergy) ซึ่งได้มีการดำเนินการที่เห็นผลแล้ว ในไตรมาสนี้ รวมทั้งการสร้างและปรับกระบวนการควบคุมภายในให้ได้มาตรฐาน โดยในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาได้มีการ deploy ระบบ ERP ที่บริษัท พีเอ็มซี เลเบิลแมททีเรีลส์ พีทีอี ลิมิเตด ใน ประเทศสิงคโปร์เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ปัจจุบันระบบควบคุมภายในและมาตรฐานบัญชีของกลุ่มบริษัท พีเอ็มซี เป็นไปตามนโยบายของบริษัทซีลิค
ทั้งนี้ บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2562 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 21.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น392.3% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2561 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4.32 ล้านบาท และมีรายได้อยู่ที่ 354.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127.2% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2561 มีรายได้อยู่ที่ 155.94 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นมาจากธุรกิจกาวอุตสาหกรรม และธุรกิจสติกเกอร์และฉลาก โดยสัดส่วนรายได้ปัจจุบันแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจกาวอุตสาหกรรมสัดส่วน 44% และรายได้จากธุรกิจสติ๊กเกอร์สัดส่วน 56%
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมีมุมมองว่าแนวโน้ม ความต้องการตลาดสติกเกอร์ยังคงมีการเจริญเติบโตที่ดี โดยเฉพาะในแถบทวีปเอเชีย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคและการขยายตัวของธุรกิจออนไลน์ช้อปปิ้ง หรือ e-commerce จะส่งผลให้เกิดความต้องการใช้งานสติ๊กเกอร์หรือฉลากเพิ่มมากขึ้น กลุ่มบริษัทยังคาดว่าการเจริญเติบโตใน sector นี้ จะส่งผลดีกับบริษัทและจะสามารถทาให้กลุ่มบริษัทเติบโตต่อไปและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้